วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552

สาเหตุโรคในกบ

ปัญหาโรคกบส่วนใหญ่มาจากความผิดพลาดทางด้านการเลี้ยงและการจัดการ ขาดความเอาใจใส่ ไม่เข้าใจวิธีการเลี้ยงและความต้องการของกบ สาเหตุโน้มนำที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ อากาศเปลี่ยนแปลงเลี้ยงกบหนาแน่นเกินไปเตรียมบ่อไม่ดี ไม่มีการฆ่าเชื้อโรคคุณภาพน้ำที่ใช้เลี้ยงไม่เหมาะสมไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำสถานที่เลี้ยงกบอยู่ในบริเวณที่ไม่เหมาะสมอาหารไม่สด ไม่มีคุณภาพ วิธีการให้อาหารไม่เหมาะสม ให้อาหารมากเกินไป
โรคกบที่สำคัญ
โรคขาแดง (Red leg disease)
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แอร์โรโมนาส ไฮโดรฟิลล่า (Aeromonas hydrophila) อาการและรอยโรค กบแสดงอาการซึม เคลื่อนไหวช้าลง ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม กินอาหารน้อยลง พบลักษณะมีจุดผื่นแดงตามขาและผิวหนังด้านท้อง มีแผลตามตัว ขาบวม โคนขามีสีแดง พบการตกเลือดและมีน้ำในช่องท้อง (ascites) ตับมีสีแดง คั่งเลือด ( congestion) บางครั้งพบจุดขาวๆ กระจายทั่วตัว

การรักษา ทำได้เฉพาะเมื่อกบมีอาการป่วยไม่รุนแรง แต่ถ้ากบมีอาการป่วยหนัก การรักษาอาจไม่ได้ผล อาจให้ยาปฏิชีวนะ เช่นเอนโรฟล็อคซาซิน 5-10 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม กินติดต่อกัน 7-10 วันออกซี่เตตร้าซัยคลิน 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม กินติดต่อกัน 7-10 วันและทำร่วมกับแช่กบในด่างทับทิม 5-8 พีพีเอ็ม (5-8 กรัม/น้ำ 1 ตัน) หรือไอโอดีน เพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำและลดปริมาณอาหารที่ให้ลงการป้องกัน การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การควบคุมคุณภาพน้ำให้ดีเสมอ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมอและไม่เลี้ยงกบหนาแน่นเกินไป
โรคตาขาว คอเอียง กระแตเวียน บวมน้ำ
สาเหตุ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ฟลาโวแบคทีเรียม เมนิงโกเซพติคุ่ม (Flavobacterium meningosepticum)
อาการและรอยโรค ลักษณะตาขาว ขุ่น บอด เกิดการอักเสบที่ตา มีหนองในช่องหน้าตา มีอาการทางประสาทโดยกบจะนอนหงายท้อง แสดงอาการควงสว่าน คอเอียง กบบางตัวจะบวมน้ำ พบน้ำคั่งใต้ผิวหนังและมีน้ำในช่องท้อง

การรักษา การรักษาโรคนี้มักไม่ค่อยได้ผล โดยเฉพาะในตัวที่ป่วยหนัก ทำได้โดยลดความรุนแรงของโรค โดยแยกตัวป่วยออกและฆ่าเชื้อโรคในบ่อโดยใช้ยาฆ่าเชื้อ เช่น ไอโอดีน เป็นต้น หรือ อาจใช้ด่างทับทิม 5-8 กรัม/น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร สาดให้ทั่วบ่อติดต่อกัน 3 วัน และผสมยาปฏิชีวนะ เช่น เอนโรฟล็อคซาซิน กับอาหารเพื่อป้องกันการติดเชื้อในกบที่เหลือ นอกจากนี้แล้วจะต้องแยกกบให้ปริมาณน้อยลงจากเดิมการป้องกัน ไม่เลี้ยงกบหนาแน่นเกินไป มีการพักน้ำและฆ่าเชื้อโรคในน้ำก่อนนำมาใช้ด้วยคลอรีน เปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น