วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาวบ้านอำเภอทุ่งเสลี่ยมถูกหลวกตุ่นเงินแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กองทุนฟื้นฟูฯ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 นางเอื้อมดาว ทิพย์นาวา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดสุโขทัย ประสานงานจากกลุ่มเกษตรกรอำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย หลังถูก นายเสน่ห์ เขื่อนทา แกนนำกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กองทุนฟื้นฟูฯเรียกเก็บเงิน หลอกลวงโดยอ้างเหตุผลว่าแลกกับการให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเข้าไปช่วยรับซื้อหนี้ โดยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ สถานีตำรวภูธรทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย

นายบุญโฮม อ้วนแพง หนึ่งในเกษตรกร จังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ตนและเพื่อนเกษตรกร ใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ถูกเรียกเก็บเงินจากนายเสน่ห์ มาตั้งแต่เดือน กันยายน 2551 ถึง เมษายน 2552 รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500, 200 และ 150 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของตนเอง และถ้าหากใครไม่จ่าย ก็จะถูกขู่ว่าจะไม่ลงชื่อรับรองการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ ทั้งนี้ การเรียกเก็บเงินครั้งแรกต้องจ่ายคนละ 500 บาท เป็นค่าสมัครสมาชิก ต่อมาครั้งที่ 2 อีก 500 บาท เป็นค่าลงทะเบียนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรครั้งต่อมาอีก 300 บาท เป็นค่าไปส่งเอกสารที่กองทุนฟื้นฟูฯ กรุงเทพฯ จากนั้นก็ยังมีการเรียกเก็บเงินเรื่อยๆ 200 บาทบ้าง 400 บาทบ้าง โดยบอกว่าเป็นค่าเขียนเอกสาร หรือบางครั้งไม่รู้สาเหตุหรือก็บอกว่าเก็บไปให้กองทุนฟื้นฟูฯ รวมทั้งมีการเก็บเงินไปทำบัตร เอาไปขึ้นทะเบียน ธ.ก.ส.

"เกษตรกรที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย แต่ละคนได้จ่ายเงินไปจนถึงขณะนี้ คนละประมาณ 5,000 กว่าบาท แต่ไม่เคยได้รับความชัดเจนเลยว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรได้ เพราะเกษตรกรแต่ละรายมีหนี้ประมาณ 400,000-500,000 บาทต่อคน แต่ไม่เคยมีชื่ออยู่ในบัญชีแก้ไขหนี้สินจากภาครัฐอย่างเช่นที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีการจ่ายเช็คเงินสดในครั้งนี้ 414 ล้านบาท เพื่อแก้ไขหนี้สินให้กับเกษตรกร ก็ไม่มีรายชื่อพวกของตนเองรวมอยู่ด้วย จนกระทั่งรู้ว่าถูกหลอกลวงชัดเจนแล้วพวกผมเลยต้องมายื่นเรื่องต่อกองทุนฯให้ช่วยเหลืออะไรจะเกิดก็ให้เกิดไป ใครจะทำร้ายอะไรผมก็ทำไป เพราะรู้สึกว่าทนไม่ได้แล้วกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะฝีมือของคนที่ฉวยโอกาสเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากพวกผม มาทำนาบนหลังคน"
ขณะที่ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวว่า ปัญหาการถูกเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวจากเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนจากเรื่องหนี้สิน เกิดขึ้นมาโดยตลอด และเกิดขึ้นกับเกษตรกรหลายจังหวัด ซึ่งเกษตรกรใน อ.ทุ่งเสลี่ยม เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง ที่อดทนกับการถูกเก็บค่านายหน้าไม่ไหว จึงได้เข้ามาร้องเรียนส่วนกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนา ไม่ใช่กลุ่มแรกที่มีพฤติกรรมในการเข้าไปเรียกเก็บเงินแบบนี้บอกว่าจะมาเลี้ยงโต๊ะจีนตนเองบ้าง และมีอีกหลายกลุ่มทั่วประเทศที่ดำเนินการแบบนี้เช่นกัน

"กลุ่มคนพวกนี้มันจะเอาชื่อกองทุนฯไปแอบอ้าง ว่าสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ได้ และก็ไปเรียกเก็บเงินมา รายละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้ว ในการติดต่อเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สิน กองทุนฯจะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว ปัญหาการเรียกเก็บหัวคิวแบบนี้ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการล้างบางกลุ่มคนที่มาแอบอ้างชื่อกองทุนฯไปหาผลประโยชน์ให้หมดไปเร็วที่สุด ส่วนกรณีของนายเสน่ห์ ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนาในต่างจังหวัดล่าสุดได้รับแจ้งว่าผู้กำกับ สภ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ได้มีการออกหมายจับ และควบคุมตัวนายเสน่ห์ ซึ่งเป็นผู้หลอกลวงเกษตรกรได้แล้ว" ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนาเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเจ้าหน้าที่ในกองทุนฯเข้าไปร่วมอยู่ด้วย จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ากลุ่มนี้ไปจดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง และได้รับเงินสนับสนุนจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และมักจะใช้ข้ออ้างในการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน เป็นช่องทางในการรับสมัครสมาชิก ซึ่งเป็นเกษตรกรที่เดือดร้อน ซึ่งตนอาจต้องเดินทางไปหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เกี่ยวกับปัญหานี้ด้วย สำหรับข้อมูลการชำระหนี้สินเกษตรกรตั้งแต่ปี 2549 จนถึง 31 มี.ค.สำนักงานกองทุนฯรับชำระหนี้แทนเกษตรกร 6,515 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 1,056 ล้านบาท

นางเอื้อมดาว ทิพย์นาวา หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า หากเกษตกรรายใดถูกหลอกลวงในกรณีดังกล่าวให้รีบแจ้งความร้องทุกข์ได้ และประสานงานมยังสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดสุโขทัยเพื่อตรวจสอบรายชื่อการเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ที่สาขาทุกจังหวัด หรือที่จังหวัดสุโขทัย ตั้งอยู่ที่ถนนสิงหวัฒน์ ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย สุโขทัย โทร 055-616405-6

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น